งาน ‘ทัศนศิลป์’ ที่สร้างผลงานขึ้นมาด้วยความสร้างสรรค์ มีคุณค่าต่อชีวิตมนุษย์ 3 ด้านใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่… คุณค่าทางด้านจิตใจ, คุณค่าทางสติปัญญา และคุณค่าทางประโยชน์ใช้สอย ซึ่งในแต่ล่ะด้านสามารถแตกแขนงแยกย่อยออกมาได้ดังนี้…
ช่วยผ่อนคลายอารมณ์เครียด
ไม่ว่าจะเป็นคลายความเครียดที่มาจากงานประจำ หรือความเครียดที่มาปัญหาส่วนตัวต่างๆ การสร้างงานศิลป์จะทำให้เกิดความเพลิดเพลิน เกิดความสุขและผ่อนคลาย โดยจิตแพทย์ยังแนะนำให้ใช้งานศิลปะบำบัดอาการป่วยทางจิตของคนไข้ด้วยการสร้างทัศนศิลป์ใดๆ ก็ได้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายอารมณ์
ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นทางจิตใจ อีกทั้งยังเป็นการสร้างกำลังใจ เช่น การออกแบบผ้ายันต์ต่างๆ , การสักยันต์ เป็นต้น เพื่อเป็นการเสริมสร้างจิตวิทยา ทางด้านการเสริมสร้างความเชื่อมั่นว่า จะช่วยทำให้ปลอดภัยจากอันตรายใดๆ ทั้งปวง เป็นต้น
เป็นสื่อทางการศึกษา
งานทัศนศิลป์เป็นงานที่สืบทอดวัฒนธรรมตั้งแต่อดีตจวบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน โดยจัดเป็นสมบัติทางด้านสติปัญญาของมนุษยชาติ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความเชื่อทางศาสนา, ปรัชญา, ประวัติศาสตร์ ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมของแต่ละชาติ เช่น จิตรกรรมฝาผนังที่แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวทางพุทธศาสนา, วรรณคดี และ ประเพณีต่างๆ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เข้าใจและศึกษาถึงรากเหง้าความเป็นมาของบรรพบุรุษ
ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์
ผลงานทัศนศิลป์มีทั้งวิธีการสร้างสรรค์แบบดั้งเดิม และแบบที่ไม่มีกฎบังคับสามารถสร้างสรรค์ได้ตามแต่ศิลปินจะคิดสร้างสรรค์ เพราะฉะนั้นงานทั้ง 2 ประเภทนี้จึงเป็นเครื่องแสดงความงามในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยเป็นผลมาจากการใช้ทักษะทางความคิดอันอิสระตามแต่ล่ะความชอบนั่นเอง เพราะฉะนั้นจึงมีการส่งเสริมให้ผู้คนได้แสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ด้วยการวาดภาพ, ปั้นรูป รวมทั้งทำงานศิลปะประดิษฐ์ เพื่อผลักดันการพัฒนาทางด้านความคิดสร้างสรรค์ต่อไป
สร้างที่อยู่อาศัย
ด้วยการนำกลวิธีการสร้างสรรค์ ทางด้านสถาปัตยกรรมมาสร้างเป็นที่อยู่อาศัย พร้อมทั้งนำมาใช้ในการประกอบธุรกิจต่างๆ เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกับองค์ประกอบภาพรวมของทั้งเมืองให้เกิดระเบียบ แบบแผน อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อกัน เช่น สร้างบ้าน, อาคาร หรือ โรงงาน เป็นต้น
สิ่งของตกแต่ง
ด้วยการนำจิตรกรรม, ประติมากรรม หรือเทคนิคในการสร้างสรรค์ต่างๆ นำมาใช้ในการตกแต่งพื้นที่ว่างของอาคาร, ผลิตภัณฑ์ ตลอดจนนำมาตกแต่งร่างกายมนุษย์ เช่น การสักบนเรืองร่าง, การตกแต่งเล็บให้มีความสวยงาม เป็นต้น
ยกระดับขึ้นมาเป็นอาชีพ
ด้วยการนำผลงานทางทัศนศิลป์ มาสร้างสรรค์เป็นสินค้าที่ใช้ในการจำหน่าย ก่อให้เกิดอาชีพ รวมทั้งนำกลวิธีของงานทัศนศิลป์สร้างสรรค์มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ นิเทศศิลป์, ออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นต้น เพื่อยกระดับพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าให้มีคุณค่าทางด้านความงาม อีกทั้งยังอำนวยทางด้านคุณประโยชน์ใช้สอยเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อมากขึ้น โดยเป็นการส่งเสริมการขายกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของประเทศชาติอีกด้วย ตลอดจนนำไปประกอบอาชีพส่วนตัว เช่น เป็นครูศิลปะ, จิตรกร, ศิลปินภาพพิมพ์, ประติมากร และอาชีพอื่นๆ อีกมากมาย
สร้างอนุสรณ์สถาน
ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาเป็นชิ้นงานที่แข็งแรง ตั้งอยู่กลางสาธารณะได้ ทนต่อลม, แดด, ฝนต่างๆ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ ชวนให้ระลึกถึงบุคคลที่ประกอบคุณงามความดีต่อสาธารณะ, ลำลึกถึงบุคคลอันเป็นที่รัก ตลอดจนเหตุการณ์สำคัญที่ควรแก่การจดจำ
เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ศาสนา
งานทัศนศิลป์ ยังเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอีกชนิดหนึ่งซึ่งช่วยจรรโลงศาสนา ทำให้เกิดหลักฐานปรากฏ และตกทอดมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน นำมาสอดแทรกกับคำสอนได้อย่างแนบเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน เช่น นำมาสร้างสรรค์ นิทานธรรม, สร้างพระพุทธรูป, สร้างงานศิลปะจิตรกรรมฝาพนัง เป็นต้น ซึ่งจะใช้เป็นเครื่องมือในการสั่งสอน กล่อมเกลา ประชาชน อีกทั้งยังช่วยโน้มน้าวให้เกิดความใฝ่ธรรมยึดมั่นในศาสนาสืบต่อไป