ใน ทางศิลปะทุกคนต่างรู้จักกันดีซึ่งจะมีในการเรียนพวกเชิงวิชาของ ทางมหาวิทยาลัย ในแนวแอบสเตกอาร์ตนั้นใช้การวาดภาพออกความหมายในเชิงรูปทรง หลายเส้น และสี ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติที่มีต่อมนุษย์แล้วถ่ายทอดออกมาบนแผ่นกระดาษ ที่คนต่างเรียกกันว่าศิลปะนามธรรมที่เป็นแบบตายตัวไร้รูปแบบไร้ตัวตน ศิลปะชิ้นนี้ได้มีมานานตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ที่ได้นำมาใช้ในทัศนะมิติให้ดูสมจริงในขณะที่ศิลปะในยุคนั้นบ่งบอกถึงความ หลายหลายของประสบการณ์ต่างๆ ของผู้คนและความรู้สึก ซึ่งได้มีศิลปินได้นำแนวคิดใหม่นำมาประยุคใช้ของแนวแอบสเตกอาร์ตจนสามารถ สร้างแนวใหม่ขึ้นมาได้และถ่ายทอดออกไปในทางเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ นั้นสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคมปัญญาของวัฒนธรรมยุโรป ศิลปะชิ้นนี้ไม่จะแสดงถึงเจตนารมของผู้ออกแบบไม่เน้นสมจริงมากมายนักแต่ก็ หลงเหลือความเป็นรูปร่างของวัตถุนั้น บางภาพก็ดูเหมือนมีการวัดองศาความกว้างยาวมาแต่ไม่ใช่เลยนั่นเกิดจากมือ เปล่าล้วนๆ ที่สร้างจากจินตนาการสู่ความเป็นจริง คุณค่าของศิลปะเป็นสิ่งสำคัญต่อความรู้สึกในแนวแอบสเตกอาร์ต อย่างโบราณจะเขียนการบรรยายที่เจาะจงไปยังสิ่งต่างๆ ทั่วไป แต่ถ้าเป็นศิลปะแล้วนั้นไม่ไม่ต้องการสร้างความเป็นจริงแต่อย่างใดแต่สร้าง ความสะท้อนต่อสิ่งอื่นโยการวาดรูปที่รวมหลายอย่างเข้ามาอยู่รูปเดียวกันแล้ว มองให้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริง โดยศิลปะกลุ่มแอบสเตกจะมองเห็นถึงคนที่มาดูภาพถึงลีลาการจัดภาพ ความสมดุลของสีและรูปทรงเพื่อให้เกิดอารมณ์เหมือนกับว่าเราอยู่ในเหตุการณ์ นั้นได้โดยไม่ต้องเห็นสิ่งเหมือนจริง นอกจากนี้ศิลปะแอบสเตกอาร์ตนั้นเป็นที่นิยมในวัยรุ่นอย่างมากมีผู้คนมากมาย สนใจที่จะทำการเรียนศิลปะเหล่านี้เพื่อนำไปใช้ในชีวิตจริงหรือสร้างอาชีพโดย การเป็นศิลปินนั่นเอง
