จินตนาการของศิลปะที่ไม่มีที่สิ้นสุด

ศิลปะมีอยู่ทั่วทุกมุมของโลกแต่จะแตกต่างไปกันคนละแบบ ซึ่งแล้วแต่ความคิดของคนที่รักและจะทำงานศิลปะนั้นๆ

จิตนาการของคนแต่ล่ะคนไม่เหมือนกันและมากหรือน้อยไม่เท่ากัน ศิลปะที่ต้องใช้จินตนาการอยู่ในทุกหลากหลายแขนง

อย่างเช่นการวาดรูป ถ่ายภาพยนตร์ ถ่ายหนัง ถ่ายภาพ การแสดง การรำ และอื่นๆ ซึ่งล้วนแต่ใช้จินตนาการอย่างสูงมากๆ

เพื่อให้แสดงออกถึงความเชื่อ การเลียนแบบธรรมชาติ ความงาม ความชำนาญ การสัมผัสด้วยใจ หรือการสร้างสรรค์

สิ่งเหล่านี้จะขาดไม่ได้ในการสร้างผลงานศิลปะทั้งหลายแขนง

จินตนาการ คือ การสร้างภาพไปไกล การฝันเฟื่องสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เป็นสิ่งที่เราสมมุติขึ้นเอง

มีศิลปะที่ต้องใช้จินตนาการตั้งเยอะแยะมากมาย ผมจะยกตัวอย่างมาให้สัก 3 ข้อหลักๆ

  1. จินตนาการผ่านทางด้านการอ่าน การอ่านสมารถสร้างเสริมจินตนาให้เราได้เป็นอย่างดี เป็นวิธีที่ได้ผลมากที่สุด และกาได้บนหนังสือนิยายทุกฉบับ และสมาธิมากขึ้นสามารถทำให้เราคิดวิเคราะห์ได้ละเอียดมากขึ้น
  2. การสร้างจินตนาการผ่านทางด้านการได้ยิน การรับฟังก็ถือว่าเป็นจินตนาการเพื่อต่อยอดจินตนาการของเพิ่มขึ้นไปอีกได้ ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว เริ่มจากการที่เราฟังเพลง จังหวะ ดนตรีทำนอง วิทยุ และจะทำให้เราเป็นคนแยกเส้นประสาทสัมผัสได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

3 การสร้างจินตนาการผ่านทางสายตา จะสามารถทำให้เรามองเห็นจินตนาการของสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น จะได้รู้ลายละเอียดและสีของจินตนาการให้ลึกซึ้ง ทะลุเข้าไปข้างในได้อย่างง่ายดาย จะยกตัวอย่างให้คุณสัก 2-3อย่าง

การมองดูภูเขาและทัศนียภาพภายในป่า การมองพฤติกรรมของสัตว์ต่างหรือไม่ก็ การมองดูคนทำงาน

สรุปก็คือในที่กล่าวมาข้างต้น ศิลปะทุกแขนงล้วนแต่ใช้จินตนาการกันทุกแขนง แต่จะมากหรือน้อยไม่เท่ากัน แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ จิตวิญญาณการเป็นนักศิลปะที่แท้จริง

Scroll to top